วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

6 จุดชมวิวสูงระฟ้า ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมา ญี่ปุ่น


6 จุดชมวิวสูงระฟ้า ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมา ญี่ปุ่น

---------------------------------------------

1.Tokyo Sky Tree | Tokyo Solamachi


Tokyo Sky Tree

Tokyo Sky Tree
  หอคอย Tokyo Ska Tree เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความสูงทั้งหมด 634 เมตร มีจุดชมวิว 2 ระดับ คือ TEMPO DECK อยู่ที่ระดับความสูง 350 เมตร และ TEMPO GALLERIA อยู่ที่ความสูง 450 เมตร  หอคอยนี้เปิดเมื่อปี 2012 ด้วยมูลค่าราว 5 พันล้านเยน  สามารถมองเห็นวิวโตเกียวได้รอบด้าน และยิ่งช่วงเวลากลางคืนจะเห็น Tokyo Tower มีสีสันจัดจ้าน ในตัวอาคารมีศูนย์การค้าและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SUMIDA AQURIUM 

Tokyo Sky Tree

 ค่าเข้าชมแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
          1.ระดับ TEMPO DECK  ผู้ใหญ่ 2,060 เยน เด็ก มีราคาตั้งแต่ 620 – 1,540 เยน **ราคาตามอายุ
          2.ระดับ TEMPO GALLERIA ผู้ใหญ่ 1,030 เยน เด็ก มีราคาตั้งแต่ 310 – 820 เยน **ราคาตามอายุ  
        *** เด็กที่มีอายุต่ำว่า 3 ปี เข้าชมฟรี ***
เวลาเปิด – ปิด   8:00 – 22:00 น.
การเดินทาง นั่ง Subway Toei Asakusa Line ลงสถานี Oshiage และเดินตามทางเชื่อมมาที่ตัวอาคารได้เลย

--------------------------------------------------------------------

2.Tokyo Tower


Tokyo Tower

Tokyo Tower

ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียว ได้ต้นแบบมาจากหอไอเฟล ปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีความสูงใกล้เคียงกัน สร้างเสร็จเมื่อปี 1958 ส่วนหัวเป็นหอส่งสัญญานโทรทัศน์ NHK มีจุดชมวิว 2 ระดับ คือ 150 เมตร และ 250 เมตร  

Tokyo Tower

 ค่าเข้าชม 900 เยน
เวลาเปิด – ปิด  09:00 – 21:30 น. 
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Hibiya ลงสถานี KAMIYACHO เดินอีก 10 - 15 นาที  
--------------------------------------------------------------------

3. Abeno Harukas 

  ตั้งอยู่ที่ Abeno เมือง Osaka เป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ณ ตอนนี้ เปิดอย่างเป็นทางการในปี 2014 มีความสูงถึง 300 เมตร มี 60 ชั้น จุดชมวิว เรียกว่า Harukasu 300 สามารถชมได้แบบ 360 องศา ภายในตึกมีทั้งโรงแรม ห้าง พิพิธภัณฑ์  ร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกเพียบภายในตึกนี้


 ค่าเข้าชม 1,500 เยน
เวลาเปิด – ปิด 10:00 – 22:00 น. 
การเดินทาง อยู่ตรงข้ามกับ JR JENNOJI STATION ถ้าเดินทางมาจาก OSAKA STATION ใช้เวลาเพียง 15 – 20 นาที

--------------------------------------------------------------------


4. Landmark Tower 



Landmark Tower 

Landmark Tower

 เป็นตึกที่สูงอันดับ 2 ในญี่ปุ่น ตึก Landmark Tower ตั้งอย่ในย่าย MIMATO MIRAI (มินาโตะ มิไร) ด้วยความสูง 296 เมตร มีทั้งหมด 70 ชั้นจึงถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยจุดชมวิวอยู่ที่ชั้น 69 เรียกว่า Sky Garden สามารถเห็นวิวได้ทั้ง 360 องศา และเห็นวิวจากภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนในช่วง ท้องฟ้าแจ่มใส

Landmark Tower 

  ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน    เด็ก 500 เยน
เวลาเปิด – ปิด   10:00 – 21:00 น. *วันเสาร์ ปิด 22:00 น.
 การเดินทาง สามารถนั่ง JR จากสถานี Yokohama สาย Yokohama Subway Blue ไปลง Sukuragicho และเดินต่ออีกประมาณ 800 เมตร

  ------------------------------------------------------------------

5. Sapporo TV Tower 

Sapporo TV Tower

Sapporo TV Tower
  ตั้งอย่ที่สวน ODORI (โอโดริ) ใจกลางเมือง SAPPORO  (ซัปโปโร) บนเกาะ Hokkaido (ฮอกไกโด) มีความสูง 150 เมตร จุดชมวิวอยู่ที่ความสูง 90 เมตร ยิ่งถ้าในช่วงฤดูหนาว ก็สามารถเห็น Sapporo TV Tower ท่ามกลางหิมะอันขาวโพน และไกลออกไปจะเห็นภูเขาจากด้านหลัง ยิ่งช่วงกลางคืนจะได้สัมผัสกับอีกบรรยากาศกันเลยทีเดียว

Sapporo TV Tower

Sapporo TV Tower

  ค่าเข้าชม 720 เยน
เวลาเปิด – ปิด 09:00 – 21:30 น. 
 การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟสาย NAMBOKU LINE ลงสถานี ODORI  เดินอีก 5 นาที

--------------------------------------------------------------------

6. Fukuoka Tower 

ตั้งอยู่ที่เมืองฟุกุโอกะ สร้างขึ้นเมื่อปี 1989 เป็นหอคอยริมทะเลที่สูงที่สุด ในระดับความสูง 234 เมตร สามารถมองเห็นเมืองฟุกุโอกะ แบบพาโนรามา ถือเป็นอีกจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาญี่ปุ่น แถมข้างในยังมีห้องจัดแสดงและขายสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์โรบอท เรียกว่า Robosquarel 

   ค่าเข้าชม 800 เยน
เวลาเปิด – ปิด 09:00 – 21:00 น. 
การเดินทาง เดินทางจาก JR HAKATA นั่งรถบัส Hakata Transport Center ป้ายหมายเลข 5 ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที

--------------------------------------------------------------------

จองตั๋ว JR Pass >>> http://wismatravel.com/jrpass
จองตั๋ว เครื่องบินราคาถูก >>> http://wismatravel.com/ticket

***  ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Japan National Tourism Organization (www.japan-photo.jnto.go.jp)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น