10 สถานที่ ที่ควรมาสัมผัสกับทิวทัศน์ธรรมชาติในญี่ปุ่น

10 สถานที่ ที่ควรมาสัมผัสกับทิวทัศน์ธรรมชาติในญี่ปุ่น   

          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่โดดเด่นของประเทศญี่ปุ่นก็คือมนต์เสน่ห์แห่งทิวทัศน์ที่อุดมไปด้วยสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่มีความงดงามอันน่ามหัศจรรย์ ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ทะเล ภูเขาไฟ แม่น้ำ แหล่งน้ำพุร้อน ทะเลสาบ เนินทราย น้ำตก กระทั่งทัศนียภาพตามแต่ละสภาพอากาศที่มีการปลี่ยนแปลงทั้ง 4 ฤดู ไม่ว่าจะเป็นฤดูไม้ไม้ผลิที่ดอกของต้นซากุระบานสะพรั่งเต็มไปทั่ว ฤดูร้อนก็จะเต็มไปด้วยความเขียวขจีของเหล่าบรรดาต้นไม้ที่งอกงาม ที่ดีไปกว่านั้นคือ จะพบเห็นใบไม้หลากสีสันที่มาพร้อมอากาศเย็นสบายในฤดูใบไม้ร่วง และต่อมาเป็นฤดูหนาวที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพร่น ซึ่งในแต่ฤดู้ก็จะสร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนได้หลงไหลไปตาม ๆ กัน

              และในครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักกับสถานที่ที่มีทัศนียภาพอันงดงามน่าประทับใจในประเทศญี่ปุ่น.. รับรองว่าถ้าได้ไปเยือนสักครั้งแล้วคุณจะหลงรัก...

-         SHILISAI NO OKA, HOKKAIDO| ชิกิไซ โนะ โอะกะ

เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของ ชิกิไซ โนะ โอะกะ บนเกาะฮอกไกโดที่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้บนเนินเขามีพื้นที่กว่า 70,000 ตร.ม. ชมความงามของเหล่าดอกไม้กว่า 20 ชนิดที่ผลิบานทั่วทั้งสวนตลอดฤดูกาลทั้ง 4 ฤดู

        การเดินทาง: (รถไฟ) เดิน 25 นาที จากสถานี Bibaushi บน JR Furano Line (3 ชั่วโมงจาก Shin Chitose Airport)

-         OIRASE MOUNTAIN STREAM, AOMORI | ลำธารโอะอิ  

ธารน้ำตกที่ไหลผ่านจากทะเลสาบ TOWADA – KO | KENOKUCHI | YAKEYAMA ปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นต้นเมเปิ้ล ต้นไวน์คาเดอร์ เป็นสถานที่ที่เราได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

การเดินทาง : (รถไฟ) 3 ชั่วโมงจากสถานี Tokyo สู่สถานี Hachinohe บน JR Tohoku Shinkansen Line และ 1 ชั่วโมง 25 นาทีจากสถานี Hachinohe สู่ Yakeyama โดย JR bus ที่จะไป Towada-ko

-         NARUKO VALLEY, MIYAGI | หุบเขานะรุโกะ

ตื่นตาตื่นใจไปกับวิวทิวทัศน์ของหุบเขากว่า 100 เมตร ที่มีทัศนียภาพที่กว้างใหญ่ แต่งแต้มด้วยสีสันของต้นไม้ ยิ่งถ้าได้มาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนะ จะหลงรักที่นี่เป็นพิเศษเลย

การเดินทาง :15 นาทีจากสถานี Naruko Onsen Station บน JR Riku-uto Line โดยรถบัส (3 ชั่วโมงจากสถานี Tokyo)

-         OKU NIKKO AREA / LAKE CHUZENJI KO|โอะคุ-นิกโก้ / ทะเลสาบชูเซนจิ

ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ ที่นี่มีน้ำตก KEGON NO TAKI FALL เป็น 1 ใน 3 ของน้ำตกที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น จากจุดชมวิวคุณจะได้พบกับทัศนียภาพอันวิเศษที่ไปกี่ครั้งก็ประทับใจสุด ๆ

การเดินทาง : (รถไฟ) จากสถานี Asakusa ขึ้นรถไฟ Tobu Isesaki-Nikko-Kinugawa Line Limited Express ใช้เวลา 2 ชั่วโมง มาลงที่สถานี Tobu-Nikko จากนั้นขึ้นรถ bus ใช้เวลา 50 นาที มายังทะเลสาบชูเซนจิ

-         TATEYAMA/KUROBE/UNAZUKI AREA, TOYAMA | ทาเตยามะ / คุโรเบะ / อุนะซุกิ

เต็มอิ่มไปกับธรรมชาติอันงดงามบนเส้นทางเทือกเขาแอลป์ โดดเด่นด้วยเขื่อน KUROBE เป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และมีหุบเขา KUROBE ที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมทั้งตื่นตาตื่นใจไปกับการนั่งรถไฟลอดใต้อุโมงค์กว่า 40 อุโมงค์ และข้าวสะพานกว่า 22 สาย

การเดินทาง : จากโตเกียว (รถไฟ)
* ไป Kurobe Gorge: 2 ชั่วโมง 20 นาทีสู่สถานี Kurobe-Unazuki Onsen โดยรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen Line และ 15 นาทีจากสถานี Shin-Kurobe ไป Unazuki-onsen โดยรถไฟ Toyama Chitetsu Line (limited express) จากนั้นเดิน 3 นาทีไปสถานี Unazuki บน Kurobe Kyokoku Line (ปิดให้บริการในฤดูหนาว)
* ไป Tateyama Kurobe Alpine Route: 2 ชั่วโมง 15 นาทีสู่ Toyama โดยรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen Line และ 1 ชั่วโมงจากสถานี Dentetsu Toyama สู่สถานี Tateyama โดยรถไฟ Toyama Chitetsu Line

-         MT. YOSHINO, NARA | ภูเขาโยชิโนะ

เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESGO ด้วยสิ่งปลูกสร้างอันล้ำค่าท่ามกลางบรรยากาศอันเก่าแก่ ภูเขาโยชิโนะนั้นมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันไปแต่ละฤดู แนะนำให้มาช่วงฤดูใบไม้ผลิเลย เพราะที่นี่จะถูกปกคลุมไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระกว่า 3,000 ต้น

การเดินทาง : (รถไฟ) จากสถานี Osaka-Abenobashi ขึ้น Kintetsu Yoshino Line ใช้เวลา 76 นาที มาลงที่สถานี Yoshino จากนั้นเดิน 3 นาทีจาก หรือขึ้นกระเช้า Yoshino Ropeway ลงที่สถานี Senbonguchi จากนั้นเดิน 3 นาที

-         AMA NO HASHIDATE SAND BAR, KYOTO | สันทรายอะมะโนะฮะชิดะเตะ

แนวสันทรายอันขาวสะอาดในอ่าวมิยะซึ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติด้วยการที่ต้นสนกว่า 8,000 ต้น ถูกลมและคลื่นพัดมาทับถมกัน ทำให้ได้เห็นมุมสวย ๆ อีกมุมในญี่ปุ่น

การเดินทาง :จากโอซาก้า (รถไฟ) 28 นาทีสู่สถานี Kyoto โดยรถไฟ JR Tokaido Line (new rapid service)

-         TOTTORI SAND DUNES, TOTTORI | เนินทรายทตโตริ

บรรยากาศบนเนินทรายขนาดใฆย่ ปฺนอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาก ในญี่ปุ่น จะพบกับผลงานอันสร้างสรรค์ของเม็ดทรายโดยธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ ทำให้เราได้เห็นผืนทะเลทรายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ซึ่งเป็นภาพที่หาดูยากมาก ๆ

การเดินทาง : จากโอซาก้า (รถไฟ) 2 ชั่วโมง 30 นาที สู่สถานี Tottori โดยรถไฟ Chizu Kyuko Line “Super Hakuto” (limited express) และ 20 นาทีจากสถานี Tottori สู่ Tottri-sakyu โดยรถบัส

-         KUJUKU SHIMA ISLANDS, NAGAZAGI | หมู่เกาะคุจูคุชิมะ

มุมทิวทัศน์ท่ามกลางหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 208 เกาะ ตามแนวชายฝั่งของคาบสมุทร KITA MATSU URA HANTO PENISNSSULA และหมู่เกาะที่นี่ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ ที่มีทัศนียภาะอันงดงามและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติต่าง ๆ จึงได้รับการปกป้องและดูแลรักษาเป็นอย่างดี

การเดินทาง : จากโอซาก้า (เครื่องบิน) 1 ชั่วโมง 10 นาที จาก Itami Airport สู่ Nagasaki Airport และ 1 ชั่วโมง 20 นาทีจาก Nagasaki Airport สู่สถานี Sasebo โดยรถบัส และต่อรถบัสจากสถานี Sasebo ไปยัง Kujuku-shima

-         SAKURA JIMA, KAGOSHIMA | ภูเขาไฟซากุระจิมะ

ภาพภูเขาไฟซากุระจิมะกลางอ่าวคิงโคที่ห่างจากเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร ที่ยังไม่ดับ และยังคงปล่อยควันลอยออกมาอยู่ตลอดเวลา

การเดินทาง : โอซาก้า (เครื่องบิน) 1 ชั่วโมง 10 นาที จาก Itami Airport สู่ Kagoshima Airport (รถบัส) 40 นาทีจาก Kagoshima Airport สู่ JR Kagoshima Chuo (Central)

*************************************************************************

WISMA TRAVEL :  www.wismatravel.com

จองตั๋ว JR Pass >>> /jrpass

จองตั๋ว เครื่องบินราคาถูก >>> /ticket

Facebook >>> https://www.facebook.com/Wismatravel/

***  ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Japan National Tourism Organization (www.japan-photo.jnto.go.jp)

***  ขอบคุณข้อมูลดี   ๆ จาก Japan National Tourism Organization (www.japan-photo.jnto.go.jp)

มรดกโลกประเทศญี่ปุ่น...อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์แห่งญี่ปุ่น

มรดกโลกประเทศญี่ปุ่น...อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์แห่งญี่ปุ่น

😊 😊 😊 😊 😊 😊

นอกจากเทคโนลียีที่ก้าวล้ำแล้ว อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์แห่งญี่ปุ่น ก็คือ สถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESGO  โดยญี่ปุ่นก็ยังคงความเป็นวัฒนธรรมและเชิดชูคุณค่าของแหล่งมรดกโลกที่มีความหลากหลายทั้ง ทางธรรมชาติ ที่ยากจะหาลักษณะแบบนี้บนโลกเทียบเท่า หรือสิ่งที่มุนษย์สร้างขึ้น เพื่อที่จะได้ปกป้องอนุรักษ์ให้คงอยู่ต่อไป  ปัจจุบันสถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของญี่ปุ่นมีทั้งหมด 19 แห่ง แต่วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักกันซัก 10 แห่งดีกว่าเนอะ 😊 มาดูกันที่อันแรกเลยดีกว่าค่ะ

HIMEJI-JO CASTLE

HIMEJI-JO CASTLE (HYOGO) ปราสาทฮิเมะจิ ได้ขึ้นทะเบียนในปี 1993 เป็นปราสาทแสนสวยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในอันดับต้น ๆ เลย ปราสาทสร้างเสร็จในปี 1617 มีความเก่าแก่อีกหนึ่งแห่ง และมีลักษณะตามแบบสถาปัตยกรรมของประเทศญี่ปุ่น 

Atomic Bomb dome

HIROSHIMA PEACE (HIROSHIMA) อนุสาวรีย์สวนสันติภาพในฮิโรชิมา ขึ้นทะเบียนในปี 1996 เป็นอาคาร “Atomic Bomb dome” ที่รอดจากการถูกโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดปรมาณู ในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เป็นสัญลักษณ์เตือนใจและแสดงถึงความหวังต่อสันติภาพของโลก 

                              

IWAMI GINZAN SILVER MINE (SHIGA) เหมืองเงินฮิวะมิ กินซัน ขึ้นทะเบียนในปี 2007 เป็นเหมืองเงินขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถือเป็นสถานที่สำคัญต่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ที่แสดงถึงร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของเหมืองที่หลงเหลือให้ได้เห็นในปัจจุบัน

FUJI

               FUJI SAN (SHIZUOKA / YAMANASHI) ภูเขาไฟฟูจิ ขึ้นทะเบียนในปี 2013 เมื่อไม่นานมานี่เอง ภูเขาไฟฟูจิครอบคลุมพื้นที่จังหวัด Shizuoka และ Yamanashi เป็นหนึ่งในทัศนียภาพที่สวยงามที่สุด และยังถือเป็นต้นกำเนิดของงานศิลปะอีกหนึ่งแห่งของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

TOMIOKA SILLK MILL

TOMIOKA SILLK MILL (GUNMA) โรงงานผ้าไหมโทมิโอกะ ขึ้นทะเบียนในปี 2014 ก่อตั้งในปี 1870 เป็นโรงงานสาวผ้าที่มีความเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นต้นแบบของยุคใหม่และถือเป็นหนึ่งในในสถานที่สำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เทคโนโลยีของการใช้ชีวิตในหลาย ๆ ประเทศ

SHIRETOKO

SHIRETOKO (HOKKAIDO) อุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ บนเกาะฮอกไกโด ขึ้นทะเบียนในปี 2005 เป็นสถานที่ที่มีระบบนิเวศที่งดงาม ทั้งพืชและสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายอาศัยอยู่ ทำให้ที่นี่มีทัศนียภาพที่สวยงามตามแบบฉบับของธรรมชาติอย่างลงตัว

THE HISTORIC VILLAGES OF SHIRAKAWA-GO AND GOKAYAMA

THE HISTORIC VILLAGES OF SHIRAKAWA-GO AND GOKAYAMA (GIFU/TOYAMA) หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิระคะวะโกะในจังหวัด Gifu และ โกคายามะ ใน Toyama ขึ้นทะเบียนในปี 1995 ถือเป็นหมู่บ้านในประวัติศาสตร์ที่มีการสร้างในสถาปัตยกรรมแบบ “Gasshou Tsukuri” ที่หลังคาจั่วสูงมีความทนทาน เมื่อหิมะตกลงมาจะไม่ปกคลุมหลังคามากเกินไป

OGASAWARA

         OGASAWARA (TOKYO) เกาะโอกะซะวะระขึ้นทะเบียนในปี 2011 มีความโดดเด่นในด้านระบบนิเวศจึงได้รับฉายาว่า “เกาะกาลาปาโกส” แห่งตะวันออก เพราะมีความหลากหลายทางธรรมชาติและมีทัศนียภาพที่งดงาม

ITSUKUSHIMA SHINTO SHRINE

ITSUKUSHIMA SHINTO SHRINE (HIROSHIMA) ศาลเจ้าชินโตฮิทสุคุชิบะ เกาะ Miyajima ใน Hiroshima ขึ้นทะเบียนในปี 1996 สร้างในสมัยเมจิที่ 8 ตั้งอยู่บนเกาะ Miyajima ตรงบริเวณหน้าศาลเจ้าจะอยู่กลางทะเล เมื่อน้ำลงสามารถเดินไปยังหน้าประตูได้

YAKUSHIMA ISLAND

YAKUSHIMA ISLAND (KAGOSHIMA) ขึ้นทะเบียนในปี 1993 อยู่ในจังหวัด Kagoshima เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีป่าดงดิบเปรียกชื้น รวบรวมพืชพันธุ์กว่า 15,00 ชนิด และมีพืชที่เกิดขึ้นเองกว่า 40 ชนิด สถาพอากาศมีความกึ่งร้อนกึ่งชื้นทำให้ที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเป็นอย่างมาก 

******************************************************

www.wismatravel.com

จองตั๋ว JR Pass >>> /jrpass

จองตั๋ว เครื่องบินราคาถูก >>> /ticket

Facebook >>> https://www.facebook.com/Wismatravel/

***  ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Japan National Tourism Organization (www.japan-photo.jnto.go.jp)

มาชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่นกันเถอะ!!

 มาชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่นกันเถอะ!!  

        ถ้าให้พูดถึงเรื่องเทศกาลดอกไม้ไฟ ที่ญี่ปุ่นก็คงจะไปแพ้ใครแน่ ๆ แถมเขาไม่ได้จัดกันนิด ๆ นะคะ จัดทียิงกันสะนั่นฟ้ากันเลยทีเดียว และมักจะจัดขึ้นประมาณ 1- 2 ชั่วโมง แถว ๆ ริมแม่น้ำ ริมทะเล ยิ่งถ้าได้ไปในที่ที่เขาจัดงานกันใหญ่ ๆ ล่ะก็ จะหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่ปูเสื่อนั่งทานขนม พูดคุยกันระหว่างรอชมดอกไม้ไฟกันอย่างสนุกสนาน และนี่ก็เข้าใกล้เทศกาลดอกไม้ไฟเข้าไปทุกที งั้นครั้งนี้เรามารู้จักกับเทศกาลดอกไม้ชื่อดังของญี่ปุ่นที่ครวมาชมกันสักครั้งดีกว่าค่ะ

SUMIDA RIVER FIREWORKS FESTIVAL, TOKYO เทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ เทศกาลดอกไม้ไฟที่มีความเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นจัดมานานกว่า 400 ปีแล้ว โดยจัดที่ริมแม่น้ำสุมิดะในโตเกียว มีความยิ่งใหญ่อลังการของแสงสีจากดอกไม้ไฟจำนวนกว่า 22,000 ดอก ดึงดูดผู้เข้าชมได้ถึง 950,000 คนในทุกๆปี ตามสถานที่ต่างๆใกล้บริเวณงาน ไม่ว่าจะเป็น TOKYO SKY TREE และ HANAYASHIKI AMUSEMENT PARK Hanayashiki รวมถึงโรงแรม และร้านอาหารต่างๆ ก็มักจะจัดที่นั่งสำหรับชมดอกไม้ไฟไว้อีกด้วย

ที่อยู่ |Taito-ku and Sumida-ku, Tokyo

สถานที่จัดงาน |บริเวณที่ 1: จากปลายสะพาน Sakurabashi จนถึงต้นสะพาน Kototoibashi
                          บริเวณที่ 2: จากปลายสะพาน Komagatabashi จนถึงต้นสะพาน Umayabashi

การเดินทาง |  จากสถานี Asakusa เดินถึงทันที

วันที่จัดงาน  | วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2017 *ในกรณีที่ฝนตกจะเลื่อนไปจัดในวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม แทน

PL ART OF FIREWORKS , OSAKAเทศกาลดอกไม้ไฟ PL ซึ่งชื่อ PL นั้นมาจากชื่อของโบสถ์ที่จัดงานนี้ มีชื่อthe Church of Perfect Liberty การจัดงานเทศกาลพลุนี้คือการสวดมนต์เพื่อสันติภาพของโลกมีการจุดดอกไม้ไฟทั้งสิ้น 20,000 ดอก  มีผู้เข้าชมประมาณ 250,000 คนในแต่ละปี

ที่อยู่ | Shindo, Tondabayashi, Osaka-Fu,Osaka

สถานที่จัดงาน |Kokyu Country Club

การเดินทาง | จากสถานี Tondabayashi แล้วเดินต่อ 20 นาที

วันที่จัดงาน | วันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2017  * ในกรณีที่ฝนตกจะยังคงจัดงานต่อไป แต่หากมีพายุแรงจะยกเลิกการจัดงาน
                                                               * จัดในวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี

NAGAOKA FESTIVAL FIREWORKS, NIIGATAหรือ เทศกาลดอกไม้ไฟนางาโกะ เป็นงานที่เราจะได้ชมดอกไม้ไฟ PHOENIX ซึ่งเป็นดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น และจำนวนดอกไม้ไฟกว่า 20,000 ดอก มีผู้ร่วมงานกว่า 900,000 คน จัดกันทั้งกลางวันกลางคืนตลอด 2 วัน และพิธีลอยโคม TORO NAGASHI เป็นพิธีของคนญี่ปุ่นที่ผู้เข้าร่วมจะทำการลอยโคมไฟกระดาษลงในแม่น้ำเพื่อไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิต

ที่อยู่ | Shinano River, Chousei Bridge downstream, Nagaoka-shi, Niigata

สถานที่จัดงาน |ระหว่างสะพาน Chousei และสะพาน Oteohashi

การเดินทาง |จากสถานี Nagaoka เดินประมาณ 20 นาที

วันที่จัดงาน | 2 – 3 สิงหาคม 2017 (พุธ –พฤหัส) *ในวันอังคารที่ 1 สิงหาคมจะมีการจัดงานเซ็นยะมะทสึริ (งานที่จัดก่อนวันงานจริง)

OKAZAKI CASTLE LORD LEYASU SUMMER FESTIVAL FIREWORKS, AICHI หรือ งานแสดงดอกไม้ไฟในเทศกาลฤดูร้อนแห่งปราสาทโอคาซากิ งานเทศกาลยอดนิยมแห่งฤดูร้อนที่ดึงดูดผู้เข้าชมได้มากถึง 480,000 คนในทุกๆปี ตื่นตะลึงกับความงามของดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นโดยมี OKAZAKI CASTLE เป็นฉากอยู่เบื้องหลัง และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือดอกไม้ไฟชุดต่างๆที่สร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือของผู้คนในท้องถิ่นนั่นเอง

ที่อยู่ | ปลายสะพาน Tonobashi, Kosei-cho,Okazaki-shi, Aichi

สถานที่จัดงาน |  ริมแม่น้ำ Otogawa River และแม่น้ำ Yahaghigawa

การเดินทาง | จากสถานี OkazakiKoen Mae /สถานี Higashi-Okazaki/สถานี Naka-Okazaki เดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

วันที่จัดงาน |วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2017 * ในกรณีที่มีฝนตกเล็กน้อยจะยังคงจัดงานต่อไปแต่หากมีพายุแรงจะเลื่อนไปจัดในวันรุ่งขึ้น

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>||<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

*** ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นJapan National Tourism Organization

***  ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Japan National Tourism Organization (www.japan-photo.jnto.go.jp)

จองตั๋วJR Pass >>> /jrpass

จองตั๋ว เครื่องบินราคาถูก >>> /ticket

Facebook >>> https://www.facebook.com/Wismatravel/

HA KO DA TE >>> แค่เดินเที่ยว...ก็ชิลล์แล้ว

HA KO DA TE >>> แค่เดินเที่ยว...ก็ชิลล์แล้ว

HAKODATE 

        หนึ่งในเมืองบนเกาะฮอกไกโดที่มีเสน่ห์ในตัวของมัน โดยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างน่ามหัศจรรย์ ซึ่งในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองสำหรับการค้ากับต่างประเทศ จึงทำให้ HAKODATE ในย่านนี้มีตึกราวบ้านช่องที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกอยู่มาก ทั้งโบสถ์ อาคาร ฯลฯ

การเดินทาง :  จากสถานี JR SAPPORO นั่ง Limited Express มาลง JR HAKODATE

MT. HAKODATE

           MT. HAKODATE ภูเขาฮาโกดาเตะ สถานที่สุดฮิตที่สามารถเดินทางจากการขึ้นกระเช้าไฟฟ้า เพื่อขึ้นมาชมวิวทิวทัศน์ของเมือง HAKODATE โดยมีระดับความสูงถึง 334 เมตร จากระดับน้ำทะเล แถมที่นี่ยังติด 1 ใน 3 ของทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในโลก และถ้าใครมาถึง HAKODATE แล้วจะพลาดไม่ได้เด็ดขาดกับการขึ้นมาชมวิวบนนี้ ถ้าพลาดนี่ถือว่ามาไม่ถึง HAKODATE เชี่ยนะ!!

ที่อยู่ : 19-7 MOTOMACHI, HAKODATE – SHI

GORYOKAKU

          GORYOKAKU โกเรียวคะคุสร้างขึ้นในปี 1859 โดยโชกุนโทกุงาวะ เพื่อป้องกันการรุกรานของต่างชาติ แต่ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นสวนสาธารณะโกเรียวคะคุ รูปดาว 5 แฉก อันร่มรื่น สุดอลังการ ในแต่ละฤดูจะเห็นทิวทัศน์อันสวยงามที่แตกต่างกัน ถ้ามาในช่วงดอกซากุระบานล่ะก็ พื้นที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีชมพู หรือฤดูหนาวก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพร่ง ส่วนกลางคืนก็จะเปิดไฟประดับ

ที่อยู่ : 44 GORYOKAKUCHO, HAKODATE – SHI

KANEMORI RED BRICK WAREHOUSE

           KANEMORI RED BRICK WAREHOUSE โกดังอิฐแดงคาเนะโมริ ตั้งอยู่ริมถนนที่ทอดยาวริมทะเล อดีตเคยเป็นโกดังเก็บสินค้า ต่อได้ได้กลายเป็นร้านค้ามากมาย สามารถเดินชม หรือ เลือกกซื้อสินค้ากันอย่างชิลล์ ๆ ริมทะเล

ที่อยู่ : 14-12 SUEHIROCHO, HAKODATE – SHI

HACHIMAN – ZAKA SLOPE 

           HACHIMAN – ZAKA SLOPE เนินฮาจิมันซาเกะ กับความงามของทัศนียภาพโดยรอบบนถนนที่ทอดยาวลงไป ทำให้เห็นวิวท่าเรืออันงดงาม ตั้งอยู่สุดทางเดิน ถ้าใครที่ชอบการถ่ายรูปแนะนำเลย มันเป็นมุมที่สวยงามจริง ๆ

 RUSIAN ORTHODOX CHURCH 

             RUSIAN ORTHODOX CHURCH โบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์ เป็นโบสถ์สไตล์รัสเซีย โดดเด่นด้วยหอระฆัง 8 เหลี่ยม สร้างขึ้นในปี 1916 ถือเป็นสัญลักษณ์ของย่านโมโตมาริ

ที่อยู่ : 3-13 MOTO MACHI, HAKODATE – SHI

OLD PUBLIC HALL OF HAKODATE WARE

      OLD PUBLIC HALL OF HAKODATE WARE ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะอาคารไม้ที่มีการก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ตั้งตระหง่าโดดเด่นอยู่บนเชิงเขาภายในสวนโมโตริ (MOTOMACHI PARK) ทำให้บรรยากาศโดยรอบของที่นี่มีความสวยงามในหลาย ๆ มุม และไม่แปลกใจเลยว่า ที่นี่จะเป็นสถานที่ที่ไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

ที่อยู่ : 11-13 MOTOMACHI, HAKODATE – SHI 

*************************************************************

จองตั๋ว JR Pass >>> /jrpass

จองตั๋ว เครื่องบินราคาถูก >>> /ticket

Facebook >>> https://www.facebook.com/Wismatravel/

***  ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Japan National Tourism Organization (www.japan-photo.jnto.go.jp)

@ OKINAWA

OKINAWA

                           เป็นเกาะที่เรียงยาวต่อกันอยู่ทางตอนใต้สุดของญี่ปุ่น และมีเกาะเล็ก ๆ น้อย ๆ ประมาณ 160 เกาะ เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่นเอง ไทย จีนอากาศที่นี่ออกเย็นสบายไม่ร้อน ไม่หนาว ส่วนใหญ่การเดินทางของที่นี่จะใช้รถไฟฟ้า (Monorail) ที่มีอยู่สายเดียว หรือรถบัสประจำทาง แต่การเช่ารถขับใน Okinawa และไม่แปลงใจเลยว่า Okinawa จะเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวอยากมาพักผ่อน แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็น “ฮาวาย” ของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีทั้ง ประวัฒศาสตร์ วัฒนธรรม  สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร แหล่งช็อปปิ้ง เป็นต้น งั้นมาดูกันว่า Okinawa มีอะไรบ้าง!! เดี๋ยวพาไปทีละโซนเลยดีกว่า

         มรดกโลกของ Okinawa

 Shuri-Ji site

-         Shuri-Ji site ปราสาทชูริ เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ริวกิวในอดีต เป็นสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยไม้ภายในมีการผสมผสานของ สถาปัตยกรรมของจีน และญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ที่นี่ขึ้นเป็นมรดกโลกช่วงปี 2000

การเดินทาง : สามารถนั่ง Monorail ลงสถานี Shuri (สุดสาย) และเดินมาต่อรถบัสสาย 7 ลงป้าย Shurijo Mae

ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 820 เยน  เด็กโต 620 เยน  เด็กเล็ก 310 เยน

เวลาทำการ :  เม.ย. - มิ.ย. 8:00-19:30น. | ก.ค. - ก.ย. 8:00-20:30 น.  | ต.ค. - พ.ย.  8:00-19:30 น. | ธ.ค. – ม.ค. 8:00-18:30 น.

 ปิดทำการ :  วันพุธแรกของเดือนกรกฎาคม และวันถัดไป

Nakagusuku-Ji site

-         Nakagusuku-Ji site ปราสาทที่มีกำแพงทั้งหก โดยใช้เทคนิคการก่อสร้างด้วยการนำหินวางซ้อนขึ้นไป

การเดินทาง : เดินทางจากสนามบิน Naha ด้วยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ถึง 1 ชม. ที่ คิตะนาคะกุซุคุซน นาคะกะมิ

ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 400 เยน เด็กโต 300 เยน เด็กเล็ก 200 เยน

เวลาทำการ : พ.ค.-ก.ย. 8:30-18:00น. |ต.ค.- เม.ย. 8:30-17:00น. ปิดทำการ :  ไม่มีวันหยุด

Katsuren-Ji site

-    Katsuren-Ji site ปราสามคัทสึเร็น สร้างขึ้นบนเนินเขาชั้นสูง ล้อมรอบด้วยกำแพงหิน ติด 1 ใน 10 ของปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

การเดินทาง : สามารถนั่งรถบัส สาย 52 โยะคัทสึเซ็น ลง ป้าย คัทสึเร็นโจอะโตะมาเอะ

ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย

Sefa – Utaki

-  Sefa – Utaki สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของราชอาณาจักรริวกิว ปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่บูชาสำหรับคน Okinawa และเราสามารถแวะมาสักกะระบูชาขอพรกับเทพกันได้อีกด้วย

การเดินทาง : สามารถนั่งรถบัสโทโย สาย 38 ชิกิยะเซ็น ลงป้าย “เซฟา อุตากิมาเอะ” เดินอีกนิดก็ถึง

ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 300 เยน เด็กเล็ก 150 เยน

เวลาทำการ :  มี.ค. - ต.ค. 9:00-18:00 น. | พ.ย. - ก.พ. 9:00-17:30 น.  

ปิดทำการ :  1 – 3 พ.ค.  และ 1 – 3  ต.ค.

         อาหาร

ซาตาอันดะกี ขนมประจำท้องถิ่น

 โอกินาว่าโซบะ เสมือนอาหารประจำ Okinawa  

โกย่าชัมปุระ

         วัฒนธรรม

-         ระบำเอซา เป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อทำบุญให้กับบรรพบุรุษ

-         ดนตรีริวกิว มีเอกลักษณ์ประจำ Okinawa คือ ซันชิน เครื่องดนตรีของริวกิว

         แหล่งช็อปปิ้ง Naha เมืองหลวงของ Okinawa ถือเป็นย่านช็อปปิ้ง และศูนย์กลางเศรษฐกิจ

Kokusai Dori Street

The First Makishi Public Market

-         Kokusai Dori Street สามารถนั่ง Monorail ลงสถานีมิเอะบาชิ

-      The First Makishi Public Market หรือตลาดมากิชิ สามารถนั่ง Monorail ลงสถานีมิเอะบาชิ หรือ มาคุชิ ก็ได้

        แหล่งท่องที่ยว

Okinawa World

-         Okinawa World เป็นพื้นที่ ที่คงความเป็นวัฒนธรรมในถ้ำ Gyokusendo Cave ภายในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย

การเดินทาง : เดินทางโดยรถยนต์จากสนามบิน Naha มา Nan jo ประมาณ 15 – 20 นาที  

ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 1,650 เยน เด็ก 830 เยน

เวลาทำการ :  9:00-18:00 น. |

-     Kudaka Island ทั้งเกาะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ บางพื้นเข้าชมไม่ได้ เมื่อมาเยื่อนที่นี่ต้องบอกเลยว่าควรปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม บนเกาะมีพื้นที่ประมาณ 8 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยเรือ Ferry จากท่า อาซามะ – ท่าเรือโทกุจิน (เกาะคุดะกะ) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที  

Okinawa Churaumi Aquarium

-         Okinawa Churaumi Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีตู้ปลาขนาดใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม

การเดินทาง : เดินทางโดยรถยนต์จากสนามบิน Naha มา Okinawa Churaumi Aquarium ประมาณ 2:30 ชม.  

ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 1,850 เยน เด็กโต 1230 เยน เด็กเล็ก 610 เยน อายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาทำการ :  ต.ค. - ก.พ. 8:30-18:30 น. | มี.ค. - ก.ย. 8:30-20:00 น.  

ปิดทำการ: วันพุธแรกของเดือนธันวาคม และวันถัดไป

  Cape Manzamo

-         Cape Manzamo เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ดื่มด่ำกับวิวท้องทะเลและชมพระอาทิตย์ตกดิน

การเดินทาง : เดินทางรถยนต์ จากสนามบิน Naha ประมาณ 1:30 ชม. มา Cape Manazamo

  Hard rock 

-         Hard rock ฮาร์ทร็อค ตั้งอยู่บริเวณเกาะโคริ Kouri Island บริเวณด้านเหนือของเกาะ
       

                  *********************************************************

จองตั๋ว JR Pass >>> http://wismatravel.com/jrpass

จองตั๋ว เครื่องบินราคาถูก >>> http://wismatravel.com/ticket

Facebook >>> https://www.facebook.com/Wismatravel/

***  ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Japan National Tourism Organization (www.japan-photo.jnto.go.jp)